รายได้ที่ยั่งยืน

หากเราต้องทำงานเสริมคุณจะเลือกงานแบบไหน?

     เป็นที่รู้กันอยู่ว่า งานที่ทำประจำให้เราได้แค่ เงินพอใช้ไปเดือนๆ เท่านั้น ถ้าจะคิดถึงเงินเก็บคุณจะต้องมีงานเสริมทำหลังเลิกงาน เลือกงานที่ชอบ ทำงานที่ถนัด คุณอาจต้องทำงานไปตลอดชีวิต

เราทำงานประจำ เป็นงานที่ให้รายได้แบบใช้แรงแลกเงินหรือ ACTIVE INCOME ซึ่งเราก็รู้อยู่แล้วว่างานประเภทนี้ไม่สามารถทำให้เรารวยได้ ลองเปลี่ยนความคิด มาเป็นงานอีกแบบหนึ่ง ที่เราใช้แรงงานของเราไปสร้างทรัพย์สินทางปัญญากลุ่มหนึ่งใช้เวลาระยะหนึ่ง เมื่อกลุ่มที่เราสร้างเกิดความรู้ ความเข้าใจและเริ่มทำตามความรู้ที่เขาได้รับก็จะเกิดการทำงานของทรัพย์สินทางปัญญาที่เราสร้าง จะสร้างรายได้ให้เราในรูปแบบของ PASSIVE INCOME

รายได้แบบ Passive income

     Passive income คือการที่เราสามารถมีรายได้เข้ามาอย่างสม่ำเสมอต่อเนื่อง โดยที่เราไม่ต้องลงมือทำงานตลอดเวลา ตัวอย่างเช่น การปล่อยให้เช่าอสังหาริมทรัพย์ เช่น สร้างหอพัก ทำอพาร์ทเม้นท์ให้เช่า เจ้าของ อพาร์ตเมนต์จะมีรายได้แบบ Passive income  เริ่มจากลงทุนก่อสร้างอพาร์ทเมนท์สำหรับให้คนเข้ามาเช่า เมื่อก่อสร้างเสร็จเรียบร้อย มีคนเช่า เจ้าของไม่ต้องทำอะไร ก็จะมีรายได้จากผู้เช่า ได้รับมาเป็นประจำอย่างสม่ำเสมอ ตลอดทุกเดือน

ทรัพย์สินที่สามารถสร้าง Passive income 
ทรัพย์สินที่ให้รายได้กับเราแบบ  Passive income นั้นมีอยู่ด้วยกัน 4 ประเภท คือ

1. ดอกเบี้ยจากเงินฝาก

2. ปันผลจากหน่วยลงทุน

3. ค่าเช่าจากอสังหาริมทรัพย์และสังหริมทรัพย์

4. ลิขสิทธิ์

ดอกเบี้ย เงินปันผล และค่าเช่าสร้าง Passive Income จริงหรือ!?
     Passive Income กลายเป็น เทรนด์ เป็นเป้าหมายของหลายคนไปเเล้ว สัมมนาที่ไหนก็เอาเรื่องนี้เป็นจุดขายกันทั้งนั้น ใครมี Passive Income เป็นจุดล่อ ทำไมถึงน่าหลงไหลแบบนั้น ความเข้าใจที่ว่า มีเงินที่สามารถเลี้ยงดูตัวเองได้ โดยที่ไม่ต้องทำงาน มีอิสระ ทางด้านการเงินเเละเวลา นี่มันชีวิตในฝันนี่นา ไม่เเปลกใจที่หลายคนจะทุ่มเท เพื่อมัน

    ดอกเบี้ยจากธนาคารมีแนวโน้มว่าจะลดลงๆ ส่วนปันผลได้จากตลาดหุ้นตลาดทุนก็ไม่แน่นอนมีแต่การปั่นกันวุ่นวาย ส่วนค่าเช่าจากบ้านเช่าถ้าลงทุนใหม่ สร้างบ้านใหม่ ค่าเช่าเดือนละหมื่น แต่ค่าบ้านและค่าที่ดินกลับสูงขึ้นสร้างบ้านหลังละ 10 ล้าน ต้องคิดค่าเช่าเดือนละ แสนใครจะมาเช่าหล่ะ

เวลาที่ลงทุนไปคุ้มค่าหรือ?

     โลกความจริงมันโหดร้าย ยกตัวอย่างการลงทุนในหุ้น เอาหุ้นดีๆ ที่หาไม่ยาก ให้ผลตอบเเทนเฉลี่ย 8% ถ้าต้องการมี Passive Income 20,000 บาท คุณต้องมีหุ้นที่มูลค่า 3,000,000 บาท  ซึ่งเป็นจำนวนที่เยอะมากๆ เอาเเบบคนธรรมดา เก็บเงิน 3 ล้านนี่ใช้เวลาเท่าไหร่? เก็บเงินเดือนละ 10,000 บาท ก็เกิบ 30 ปี ถึงจะมี เงินเดือนละ 20,000 บาทเเบบชิลๆ เท่ๆ  และ ชีวิตก็ไม่ได้ใจดีกับเราเท่าไหร่ มีเรื่องให้เสียเงินเยอะ เช่น บ้าน รถ การเเต่งงาน ลูก พ่อเเม่เจ็บป่วย บลาๆ อ่านต่อ 

Passive Income เหมือนงาน Active Income ทุกประการ
     ตรงที่ไม่ใช่การลงเงินลงแรงแล้วรายได้จะเข้ากระเป๋าง่ายๆขนาดนั้น การสร้าง Passive Income ต้องอาศัยความรู้ ประสบการณ์ การฝึกฝน เพิ่มพูนทักษะ การคิด วิเคราะห์ แยกแยะ การคำนึงถึงผลลัพธ์ที่เลวร้ายที่สุดเท่าที่จะเกิดขึ้นและหาทางแก้ไขมัน Passive Income ที่เริ่มต้นด้วยเงินเป็นอันดับแรก มักจะจบลงด้วยการสูญเสียเงินเป็นการปิดท้าย ถ้าอยากได้ Passive Income ที่มีคุณภาพ คุณต้องเริ่มจากการใช้เงินให้น้อยที่สุด และลงแรงให้มากที่สุดก่อน ให้ตัวเองแกร่งก่อนค่อยลงสนามที่ใหญ่เกินกว่าตัว เพราะคนที่ประสบความสำเร็จจากการสร้างเงินแบบไม่ต้องทำงานล้วนผ่านการทำงานหนัก ขึ้นสังเวียนโหดๆมาทั้งนั้น อย่าเชื่อว่า Passive Income เป็นเรื่องง่าย สบาย มีกินมีใช้ชั่วชีวิตโดยไม่ต้องกังวลเรื่องเงิน ถ้าคุณไม่มี “เป้าหมายที่สูงกว่าเงิน” และ “ความคิดลบในกรณีที่เลวร้ายสุดๆ” สุดท้ายฝันหวานของคุณมันจะพาคุณไปสู่การสูญเสียอย่างมหาศาล เพราะนั่นคือ “กับดักของ Passive Income” ที่พาคนไปสู่ความล้มเหลวมานับไม่ถ้วนนั่นเอง Passive Income ไม่ง่ายเลยล่ะ สำหรับ ชีวิตคนธรรมดาคนนึง Passive อย่างเดียว ชีวิตก็จะโตช้า และมีโอกาสเเพ้ตนเองสูง (ความอดทนหมด)

ทางเลือก ง่ายกว่าและได้ PASSIVE INCOME จากลิขสิทธิ์
     ลิขสิทธิ์จากทรัพย์สินทางปัญญา ลิขสิทธิ์นี้สร้างขึ้นมาในรูปของเครือข่าย โดยการส่งต่อข้อมูลที่เป็นประโยชน์ให้ผู้ร่วมเครือข่ายได้เข้าใจวิเคราะห์คิดและพิจารณาจนเห็นด้วยแล้วเริ่มแชร์ข้อมูลต่อๆ กันไป เกิดการรวมตัวและดำเนินกิจกรรมไปตามระบบความคิดที่เห็นด้วยเอาด้วย ทำให้เกิดการบริโภคในกลุ่มแล้วขยายออกไปอย่างไม่มีจุดสิ้นสุด